การยื่นอุทธรณ์เมื่อช่อง Youtube ถูกปิดสร้างรายได้ กรณี เนื้อหาที่นำกลับมาใช้ใหม่ ถึงแม้ว่าเนื้อหา (Content) ในช่องจะประกอบด้วยวิดีโอที่ทำด้วยตัวเองทุกขั้นตอนนั้น อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน รวมถึงแอดเอง ก็เคยเจอเหตุการณ์มืนมนเมื่อช่อง Youtube ซึ่งกับลังไปได้ดี กลับถูกปิดสร้างรายได้

วันนี้ แอดจะมาแบ่งปันประสบการณ์ การทำวิดีโอยื่นอุทธรณ์ เมื่อช่องถูกปิดสร้างรายได้ กรณีเนื้อหานำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งแอดเองเคยถูกปิดสร้างรายได้ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาและมีประสบการณ์การทำวิดีโอยื่นอุทธรณ์มาแล้ว 4 ครั้ง (ภูมิใจมาก ฮ่าๆๆ) เรามาดูขั้นตอนในการทำกันเลยค่ะ
นี่คือภาพแสดงการอธิบายแนวทางการทำวิดีโอขอยื่นอุทธรณ์

จะเห็นได้ว่าคำอธิบายที่ดูเหมือนจะง่าย แต่เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกภาพของวิดิโอที่ขอยื่นอุทธรณ์ที่ทำแล้วผ่านไม่ออก (แอดเคยเป็นแบบนั้น) และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แอดต้องมาเขียนบทความนี้เพื่อส่งต่อประสบการณ์ดีๆ เรามาดูขั้นตอนที่แอดทำกันเลยค่ะ
- ตรวจสอบเนื้อหา
ก่อนอื่นต้องมั่นใจก่อนว่า เนื้อหาที่ทำคลิปนั้น เป็นเนื้อหาที่เราทำเอง ในที่นี้หมายถึง ดำเนินการพาร์กเสียงเองหรือจ้างเอง ตัดต่อเอง หรือลงมือทำด้วยตัวเอง หากนำเนื้อหาของคนอื่นมาปรับใช้ อาจจะต้องแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่าง
2. กำหนดโครงร่างของคลิป
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าวิดิโอในช่องเป็นผลงานของเรา ลำดับถัดมาจึงเป็นการเขียนโครงร่าง สำหรับการทำวิดิโออุทธรณ์นั้นจะต้องใช้ภาษาที่ยูทูปกำหนด (ตามภาพด้านบน) แต่หากใครไม่ถนัดในภาษาเหล่านี้ สามารถบรรยายเป็นภาษาไทยแล้วเพิ่มคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากนำวิดิโออัพโหลดลงในช่องเรียบร้อยแล้ว และหากใครไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะสามารถใช้ Google Translate ได้ค่ะ
สิ่งต่อมาที่สำคัญคือ การกำหนดเนื้อหาในโครงร่างของวิดีโออุทธรณ์ค่ะ เรามาดูแนวทางการเขียนโครงร่างอย่างง่ายกันเลยค่ะ
โครงร่างการเขียนคำบรรยายการอุทธรณ์ สำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ คือ การตีตารางออกเป็น 3 ช่อง ตามภาพค่ะ
(ภาพตาราง)
ช่องที่ 1 คือช่องประเด็นที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อความที่กล่าวถึงชื่อช่อง และเนื้อหาในภาพรวมของช่อง วิธีการและขั้นตอนในการทำวิดีโอ ตั้งแต่การวางแผน การเขียนเนื้อหา วิธีการถ่าย อุปกรณ์ เครื่องมือ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเครื่องมือที่ใช้
ช่องที่ 2 คือคำบรรยายภาษาไทย (เขียนบรรทัดละประโยค เพื่อจะได้ง่ายเมื่อนำไปใส่คำบรรยายในวิดิโอเมื่อโพสต์แล้ว) คำบรรยายภาษาอังกฤษ ตามตารางตัวอย่างด้านล่างนี้ค่ะ โดยช่วงท้ายอาจจะกล่าวยืนยันสักหน่อยว่า วิดีโอในช่องเป็นผลงานที่คุณทำด้วยตนเองและ/หรือทีมงาน คุณควรได้รับการพิจารณาให้อนุมัติสร้างรายได้
ช่องที่ 3 คำบรรยายภาษาอังกฤษ สำหรับใครที่ไม่ถนัดภาษาที่ยูทูปกำหนด ให้นำคำบรรยายภาษาไทยแปลใน Google Translate โดยคัดลอกเพื่อแปลทีละประโยค เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน เมื่อต้องอัดคลิปบรรยาย รวมถึงการนำคำบรรยายไปใส่ไว้ในวิดีโอ เมื่อได้ข้อความทั้ง 3 ช่องครบถ้วน ให้ทบทวนดูอีกครั้ง หากมั่นใจในเนื้อหาแล้วก็ให้เริ่มขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ
3.บันทึกวิดีโอ
สำหรับการบันทึกวิดิโอ แอดขอแนะนำให้บันทึกด้วยสัดส่วนที่เป็นแนวตั้ง เนื่องจากเมื่อนำวิดิโอมาตัดต่อในแนวนอน (16:9) จะทำให้สามารถจัดวางตำแหน่งในวิดีโอได้อย่างสวยงาม
ส่วนการบรรยายระหว่างวิดีโอนั้น สำหรับคนออกตัวว่าไม่ได้ภาษาอังกฤษจริงๆ ก็ขอให้ของใช้ตัวช่วยตัวเดิมซะก่อน นั่นคือ Google Translate เพราะเจ้าเครื่องมือตัวนี้ สามารถอ่านออกเสียงให้เราได้อ่านออกเสียงตามได้เลย ซึ่งเพื่อให้ง่าย ก็แค่คัดลอกเพื่อแปลและออกเสียงด้วยประโยคสั้นๆนะคะ
4. การตัดต่อวิดีโอ
การตัดต่อวิดิโอ ยังคงตั้งค่าวิดีโอสัดส่วน 16:9 ตามที่ยูทูปกำหนด โดยจัดวางวิดิโอที่บันทึกตัวเราขณะอธิบายไว้ซีกหนึ่ง และจัดวางภาพ/วิดีโอ แสดงหลักฐานยืนยัน ถึงขั้นตอนการทำ เช่น ภาพการเขียนสคริป ภาพแสดงการใช้แอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมตัดต่อ รวมถึงภาพแสดงกระบวนการจัดทำวิดีโออื่นๆที่ยืนยันความเป็นเจ้าของ โดยให้ยกตัวอย่างวิดิโอในช่องอย่างน้อย 3 วิดีโอ ประกอบการอธิบาย
5.ทบทวนเนื้อหาในวิดีโออีกครั้ง ทั้งในส่วนของเนื้อหาและภาพ/วิดีโอประกอบ
6.อัพโหลดวิดีโอลงช่อง
7.เพิ่มคำบรรยายภาษาอังกฤษอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนในเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ

8. ส่งลิ้งค์เพื่อยื่นอุทธรณ์
หลังจากที่คุณได้ทำวิดีโอเสร็จเรียนร้อยแล้ว ก็สามารถนำลิ้งค์ของวิดีโอยื่นขออุทธรณ์ได้เลย ส่วนระยะเวลาในการรอนั้นไม่เกิน 14 วัน สำหรับประสบการณ์ของแอดก็มีตั้งแต่ 2-7 วันค่ะ
ทั้งนี้ แอดข้อแนะนำนะคะ ระหว่างที่ช่องถูกปิดสร้างรายได้ คือการหมั่นเติมวิดิโอในช่องอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะได้ไม่ทำให้การมองเห็นของช่องลดหรือระบบการนำเสนอวิดิโอต่อผู้ติดตามติดขัดนะคะ
